Statistics Statistics
530822
Online User Online1
Today Today109
Yesterday Yesterday245
ThisMonth This Month2,605
LastMonth Last Month7,036
ThisYear This Year55,684
LastYear Last Year80,206


 

การเพิ่มประสิทธิภาพผลผลิตทางแสงในช่วงตามองเห็นของแก้วที่เติมธาตุหายากโดยใช้อนุภาคนาโน

หัวหน้าโครงการ ยศกิต เรืองทวีป

บทคัดย่อ

ในงานวิจัยนี้ได้ศึกษาผลของ Sm2O3 และ Dy2O3 ที่ปริมาณความเข้มข้นต่างๆ ที่มีผลต่อสมบัติทางกายภาพและทางแสงของแก้วเทลูไรต์ แก้วตัวอย่างที่ใช้ในงานวิจัยเตรียมแก้วในสูตร (55-x)TeO2 : 10ZnO : 35BaO : xRE (RE = Sm2O3 และ Dy2O3) เมื่อ x คือปริมาณความเข้มข้น 0.00, 0.05, 0.10, 0.50, 1.00 และ 1.50 เปอร์เซ็นต์โดยโมล แล้วนำไปหลอมที่อุณหภูมิ 950 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 30 นาที โดยการเตรียมแก้วจะใช้เทคนิคหลอมที่อุณหภูมิสูงแล้วทำให้เย็นตัวอย่างยิ่งยวด จากผลการศึกษาพบว่าค่าความหนาแน่นและปริมาตรเชิงโมลของแก้วตัวอย่างไม่ขึ้นกับปริมาณความเข้มข้นของ Sm2O3 และ Dy2O3 ขณะที่ค่าการเปล่งแสงของ Sm2O3 เมื่อกระตุ้นด้วยแสงในช่วงความยาวคลื่นที่ 405 นาโนเมตร พบพีคการเปล่งแสงอยู่ในช่วงความยาวคลื่น 564, 600, 646 และ 707 (สีแดง) นาโนเมตร สัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงระดับชั้นพลังจาก 4G5/2 ไปยัง  6H5/2, 6H7/2, 6H9/2 และ 6H11/2   ตามลำดับ โดยแก้วที่เจือด้วย Sm2O3 ที่ความเข้มข้น 0.5 เปอร์เซ็นต์โดยโมล มีความเข้มการเปล่งแสงสูงสุด และค่าการเปล่งแสงของ Dy2O3 เมื่อกระตุ้นด้วยแสงในช่วงความยาวคลื่นที่ 352 นาโนเมตร พบพีคการเปล่งแสงอยู่ในช่วงความยาวคลื่น 483 (สีน้ำเงิน), 575 (สีเหลือง) and 665 (สีแดง) นาโนเมตร สัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงระดับชั้นพลังจาก 4G5/2 ไปยัง  6H15/2, 6H13/2 และ 6H11/2 ตามลำดับ โดยแก้วที่เจือด้วย Dy2O3 ที่ความเข้มข้น 1.0 เปอร์เซ็นต์โดยโมล มีความเข้มการเปล่งแสงสูงสุด