คำแนะนำการจัดบทความโดยจัดตามรูปแบบ Template paper  << คลิกที่นี่ >> 


1. ให้ตั้งค่าหน้ากระดาษพิมพ์แนวตั้ง (portrait) โดยตั้งค่าหน้ากระดาษ (page setup) ทุกด้านให้มีระยะขอบ (margins) ด้านละ 1 นิ้วเท่ากันทั้งหมด และไม่ต้องใส่เลขหน้า  ความยาวบทความไม่เกิน 12 หน้า

2. รูปแบบตัวอักษรที่กำหนด คือ TH SarabunPSK ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ  จัดชิดขอบซ้าย-ขวา แบบกระจายแบบไทย (Thai Distributed)

3. ชื่อเรื่องภาษาไทยและภาษาอังกฤษใช้ตัวอักษร TH SarabunPSK ขนาด 18 ตัวหนาจัดให้อยู่กึ่งกลางหน้าจัดให้สวยงาม

4. ชื่อคณะผู้วิจัยภาษาไทยและภาษาอังกฤษใช้ตัวอักษร TH SarabunPSK ขนาด 16 จัดให้อยู่กึ่งกลางหน้า

5. ชื่อหน่วยงานหรือสถานบันของผู้เขียน และ E-mail ผู้เขียนบทความหลัก (*) ใช้ตัวอักษร TH SarabunPSK ขนาด 14 จัดให้อยู่กึ่งกลางหน้า

6. บทคัดย่อภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ใช้ตัวอักษร TH SarabunPSK  ขนาด 14

7. การพิมพ์เนื้อเรื่องใช้ตัวอักษร TH SarabunPSK  ขนาด 14

8. การอ้างอิงในเนื้อหา 

       8.1 การอ้างอิงในส่วนเนื้อหาหรือเนื้อเรื่อง ให้ใช้หมายเลขอ้างอิงในวงเล็กสี่เหลี่ยม [X] โดยจะระบุชื่อผู้แต่งไว้ข้างหน้าหรือไม่ระบุชื่อผู้แต่งก็ได้ เช่น มานะ [1] ได้นำเสนอวิธีการ...... หรือ ใน [1] ได้นำเสนอวิธี .....   ในกรณีที่มีผู้แต่งตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปให้ใช้ “และคณะ” เช่น มานะ และคณะ [1] ถ้าเป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาใด ๆ ที่เขียนด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษให้ใช้ et al. ต่อท้ายผู้แต่งคนแรก เช่น Schaad et al. [2] และให้ใส่ชื่อทุกคนในเอกสารอ้างอิงท้ายบทความ อ้างอิงหลายรายการกรณีไม่เกิน 2 คน ให้ใส่เครื่องหมายจุลภาค ( ,) คั่น เช่น [1,2]  หรือ [2, 6]  อ้างอิงเกิน 2 รายการและเป็นรายการที่ต่อเนื่องกันให้ใส่เครื่องหมายยัติภังค์ (-) คั่น เช่น [1-3]  หรือ [5-10]

8.2 ให้ใส่ตัวเลขอ้างอิงลำดับตั้งแต่เลข 1 เป็นต้นไป ต่อเนื่องกัน  กรณีที่มีการอ้างอิงซ้ำให้ใช้เลขเดิมที่ได้อ้างมาก่อนแล้ว

8.3 ไม่ให้เขียนอธิบายในเชิงอรรถ หากต้องการอธิบายเนื้อหาหรือคำเฉพาะใด ๆ ให้เขียนอธิบายในบทความเท่านั้น  เพื่อให้บทความมีความเป็นมาตรฐานเดียวกัน และเพื่อให้เอกสารประกอบการประชุมมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย

9.การเอกสารอ้างอิงท้ายบทความ

9.1 การอ้างอิงท้ายบทความ ให้จัดเรียงตามลำดับเลขที่ผู้เขียนใช้อ้างอิงในเนื้อหาโดยจะมีหมายเลขลำดับของเอกสารอ้างอิงในวงเล็บสี่เหลี่ยม 

9.2 รูปแบบการเขียนเอกสารอ้างอิงแบบ APA (American Psychological Association)